รายละเอียด |
“โลกในปี 1492 มีความแตกต่างจากปัจจุบันมาก ตอนที่โคลัมบัสเดินทางข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกนั้นมะเขือเทศและซอสมะเขือเทศ ยังไม่เป็นที่รู้จักในอิตาลีหรือที่ไหนๆ ในยุโรป เช่นเดียวกับช็อกโกแลตซึ่งเป็นที่แพร่หลายในอเมริกาก่อนโคลัมบัสมาถึงราวสามพันปี แต่ไม่เป็นที่รู้จักของชาวยุโรปเลย ยาสูบก็เช่นกัน มันมีความผูกพันอย่างมากกับชีวิตและพิธีกรรมของพวกอินเดียน แต่ไม่เป็นที่รู้จักของชาวยุโรป เมื่อโคลัมบัสและลูกเรือพบกับสิ่งดังกล่าว พวกเขาไม่รู้จะทำอะไรกับมันกระนั้นผลจากการที่พวกเขานำผลิตผลเหล่านี้เข้าสู่ยุโรป และลงมือปลูกทั้งดอกไม้และพฤกษชาติที่นำติดตัวมา พืชบางชนิดมีขนาดใหญ่โตเท่ากับม้า บางชนิดเล็กจนแทบมองไม่เห็น โลกเก่าและโลกใหม่ได้เชื่องโยงกันในวิถีทางที่ไม่มีใครแม้นตัวโคลัมบัสเองจะคาดเดาได้
ไม่มีสิ่งใดเหมือนเดิมอีกต่อไป โคลัมบัสคงคิดไม่ถึงว่าผลจากการเดินทางของเขาที่ดำรงอยู่นานที่สุด นอกเหนือการแสวงหาจักรวรรดิและการค้า คือการที่เขาได้เปลี่ยนสภาพแวดล้อมของโลกโดยไม่ได้ตั้งใจ นอกเหนือจากการเผยแพร่ศาสนา การค้าทาสการค้นพบทองคำ หรือศักยภาพอื่นๆ ที่โคลัมบัสและสเปนได้รับ การแลกเปลี่ยนระหว่างโลกเก่าและโลกใหม่ได้ก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงที่ว่านี้มีขอบเขตกว้างขวาง นำมาซึ่งภัยพิบัติและคงอยู่ตลอดกาลเป็นเวลาหลายปีเป็นทศวรรษ เป็นทศวรรษ กว่าผลแห่งการแลกเปลี่ยนระหว่างสองโลกนี้จะเผยตัวออกมา”
|